ภายใต้ความหมายของ "คุณภาพ" แนวคิดของคำสันสกฤต "คุณะ" ได้รับการพิจารณาทั้งโดย อายุรเวท และโดยสำนักคิดและปรัชญาคลาสสิก เช่น โยคะ เป็นหนึ่งในสามองค์ประกอบสำคัญ คุณสมบัติของธรรมชาติ (ประกฤติ). ซึ่งหมายความว่า ตามหลักการเหล่านี้ จักรวาลทั้งหมดจะถูกควบคุมและประกอบขึ้นโดยพวกมัน ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอายุรเวทและ 3 Gunas

เพื่อให้เห็นตัวอย่างแนวคิดนี้ได้ดียิ่งขึ้น ชาวฮินดูเข้าใจการมีอยู่ของ Gunas จากการตีความการสร้างและการสลายตัวของจักรวาล ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว . ในช่วงที่ไม่ปรากฏ เอกภพยังคงอยู่ในสถานะซ่อนเร้น ซึ่งเป็นช่วงที่ Gunas อยู่ในความสมดุลอย่างสมบูรณ์ และธรรมชาติของวัตถุไม่ปรากฏออกมา

ในขณะที่ Gunas ยังคงอยู่ในระยะที่ไม่ได้กำหนด Prakriti ก็ยังไม่ถูกกำหนดและ จักรวาลมีอยู่เฉพาะในสถานะที่มีศักยภาพเท่านั้น สิ่งที่มีอยู่จริงคือจิตสำนึก พระพรหม สัมบูรณ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลง Purusha (สิ่งมีชีวิตที่บริสุทธิ์ไม่จำกัด) ซึ่งไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด แต่แล้ว ในไม่ช้าสมดุลนั้นก็ถูกรบกวน…

การรบกวนของความสมดุลเริ่มต้นการสร้างจักรวาลขึ้นใหม่ และจากจิตสำนึกที่ไม่เปลี่ยนแปลง จักรวาลก็ถูกสร้างขึ้นอีกครั้ง ในกระบวนการนี้ Gunas ทั้งสามมีส่วนร่วมในการผสมผสานและการเรียงสับเปลี่ยนที่หลากหลาย ซึ่งอย่างใดอย่างหนึ่งสามารถครอบงำเหนือสิ่งอื่นได้องค์ประกอบคืออากาศ (vayu) และอีเธอร์ (akasha) เมื่อสิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลเหนือร่างกาย บุคคลนั้นสามารถสัมผัสประสบการณ์สมาธิ นั่นคือการตรัสรู้ของสติสัมปชัญญะ

การปฏิบัติตามอาหารแบบสัตตวิกทำให้มีสุขภาพแข็งแรง มีสมาธิ ความจำ สมาธิ ความซื่อสัตย์ ความรู้สึกดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ของความยุติธรรม ความเฉลียวฉลาด ภูมิปัญญา ความบริสุทธิ์ แสงสว่าง ความฉลาดหลักแหลม ความเยือกเย็น ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความเห็นอกเห็นใจ และสำหรับผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ มันสามารถเป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึก วาทศิลป์ และความคิดที่ยอดเยี่ยม

อ่านเพิ่มเติม: 5 เครื่องเทศที่ขาดไม่ได้ในครัวของคุณตามอายุรเวท

ราชสิคฟู้ดส์

ในปริมาณที่น้อยกว่า Guna ก่อนหน้ามาก อาหารราจาซิกควรมีส่วนประกอบเพียง 25 % ของมื้ออาหารของคุณ ถือว่าเป็น “โหมดแห่งตัณหา” และหมายถึงการเคลื่อนไหว ซึ่งถูกมองว่าเป็นหลักการเชิงบวก (+) มีความกระตือรือร้นและเปิดเผยอยู่เสมอ เมื่อเปรียบเทียบกับการแพทย์แผนจีนแล้ว ราจาสามารถคล้ายกับพลังหยางของผู้ชาย

ในอาหารของพวกเขา พวกเขาสามารถนำเสนอตัวเองผ่านอาหารทุกชนิดที่กระตุ้น เผ็ดร้อน และเผ็ดร้อนตามธรรมชาติ บางชนิดเป็นผลไม้ในน้ำเชื่อม อินทผลัมแห้ง อะโวคาโด ฝรั่ง มะม่วงเขียว มะนาว น้ำผลไม้ (บริโภคประปราย) ยีสต์เบียร์ มะเขือม่วง ถั่วแห้ง หัวไชเท้า มะเขือเทศ รูบาร์บ ดอกเผ็ด ไอศกรีม (บริโภคปานกลาง) ,ถั่วเลนทิลแห้ง มะกอกดำหรือมะกอกเขียว ถั่วลิสง ช็อกโกแลต พืชหัว เครื่องปรุงรส (รวมถึงกระเทียม พริกไทย พริก เกลือ น้ำส้มสายชู ขิง หัวหอมดิบและกุ้ยช่ายฝรั่ง) เมล็ดถั่วพิสตาชิโอ เมล็ดฟักทอง นมเปรี้ยว ชีส (ริคอตต้า คอทเทจ และอื่นๆ ), น้ำตาล (สีขาว, กลั่น, สีน้ำตาลและอื่น ๆ), อนุพันธ์ของอ้อย (น้ำอ้อย, กากน้ำตาลและน้ำตาลทรายแดง), เนื้อสัตว์หั่นบาง ๆ, อาหารกระป๋องหมักหรือสดและไข่

สิ่งของบางอย่างออกให้ราชาซิค การรับประทานอาหารค่อนข้างเป็นที่ถกเถียงและยังอนุญาตให้บริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง โคคา-โคลา และอนุพันธ์ ข้อโต้แย้งอื่นๆ เกี่ยวข้องกับการใช้บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยารักษาโรค และแม้กระทั่งยาเสพติด

อาหารที่ผลิตด้วยความโกรธ อาหารจานทอด หรือส่วนผสมของ sattvic ที่สุกเกินไปก็มีคุณสมบัติแบบราชาเช่นกัน

ราชา เกี่ยวข้องกับรสเค็มเผ็ด (รส) สามารถกระตุ้นประสาทสัมผัสและธาตุไฟ (เตโช) ให้เกิดการเคลื่อนไหวและความร้อน ในสังคมสมัยใหม่ เรามีประชากรที่นับถือศาสนาราชเป็นส่วนใหญ่ และยังคงมุ่งความสนใจไปที่ทามาส

อาหารทามาสิก

สุดท้าย เรามีอาหารผลทามาส ซึ่งพบได้ในธรรมชาติในปริมาณที่น้อยกว่า อย่างไรก็ตาม ผลิตขึ้น ทางอุตสาหกรรมและในปริมาณที่มากขึ้นโดยมนุษย์ ใน “โหมดไม่รู้” อาหารเหล่านี้หมายถึงการต่อต้านและอธิบายความคิดของหลักการเชิงลบ (-) เย็นและเริ่มต้น เช่นเดียวกับราชาคือหยาง ทามาสก็คล้ายกับพลังหยินของเพศหญิง

เนื่องจากส่วนใหญ่ประกอบด้วยอาหารอุตสาหกรรม อาหารทามาซิกจึงควรได้รับในระดับปานกลาง เป็นระยะๆ และถ้าเป็นไปได้ เฉพาะในสถานการณ์พิเศษเท่านั้น สิ่งของบางรายการโดยเฉพาะในรายการนี้ควรหลีกเลี่ยงโดยสิ้นเชิง เนื่องจากสิ่งเหล่านี้สามารถทำลายพลังงานสำรองของคุณ ทำให้เกิดความเฉื่อยชา ความเกียจคร้าน ความหมองคล้ำทางร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ ยังทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคต่างๆ

สูงสุดของคุณ เปอร์เซ็นต์ของการบริโภคอยู่ใน 10% ของอาหารในมื้ออาหาร องค์ประกอบบางอย่างที่ประกอบกันเป็นทามาซิค ได้แก่ อาหารจานด่วน เนื้อสัตว์โดยทั่วไป (เนื้อวัว เนื้อหมู และอื่นๆ) โปรตีนจากพืชที่มีพื้นผิว (เนื้อถั่วเหลือง) อาหารทะเล ไขมัน อาหารทอด อาหารแช่แข็ง อาหารแห้ง อาหารเหม็นหืน อาหารอุ่นร้อน อุ่นใน ไมโครเวฟและแปรรูป

ตัวอย่างอื่นๆ ได้แก่ น้ำผลไม้แช่แข็ง (เยื่อกระดาษ) นม (พาสเจอร์ไรส์ ผง และโฮโมจิไนซ์) ไอศกรีมในปริมาณมาก เนยเทียม เชื้อราและเห็ด เช่น เห็ด กล้วยในปริมาณมาก และ ในตอนกลางคืน หัวหอม กระเทียม ผักดอง ชีสที่สุกโดยเชื้อรา (กอร์กอนโซลา โรกฟอร์ต คาเมมแบร์ และอื่นๆ) ไส้กรอก (มอร์ทาเดลลา ไส้กรอก ซาลามี ไส้กรอก ฯลฯ) และอาหารกระป๋อง

บางรายการ เช่น การใช้บุหรี่,การใช้ยา แอลกอฮอล์ และสารเสพติดก็อยู่ในรายชื่อของสารทามาซิคเช่นกัน ผลกระทบระยะยาวของแอลกอฮอล์และอาหารที่ปรุงโดยไม่สนใจก็มีคุณสมบัติตามรสเช่นกัน

เกี่ยวกับความรู้สึกโกรธและทำลายล้าง อาหารทามาสิกเกี่ยวข้องกับรสขมและฝาด (รสชาติ) กระตุ้นธาตุจาลา (น้ำ) และ prithivi (ดิน) และโน้มน้าวให้แต่ละบุคคลมีสภาวะเช่นไขมันและน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการสร้างเมือก ผู้ที่มีทามะมากเกินไปอาจถูกชักจูงไปสู่ทัศนคติทางวัตถุ กระทำการด้วยความยึดติด ความโง่เขลา และไม่สามารถที่จะแยกแยะและตัดสินถูกผิด – การกระทำของพวกเขาถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ล้วนๆ

ทุกสิ่งที่ก่อให้เกิดความรู้สึกอ่อนแอ เจ็บป่วย และไม่ดีเกี่ยวกับตัวคุณถือว่าเป็นทามะ การจำแนกประเภทของโรคนี้จัดว่าเป็นสาเหตุของความทุกข์ยากทั้งหมดของมนุษยชาติ

เรียนรู้เพิ่มเติม:

• โรคหอบหืดและอายุรเวท – สาเหตุ การรักษา และการป้องกัน<11
• อายุรเวทและไซนัสอักเสบ: 7 วิธีแก้ไขที่บ้านเพื่อบรรเทาอาการ
• อายุรเวทต้านมะเร็ง: 6 สมุนไพรที่ช่วยลดความเสี่ยง

อายุรเวทและ 3 Gunas: Sattva, Rajas และ Tamas

อธิบายโดย Ayurveda และ ในวรรณคดีอื่น ๆ ของแหล่งกำเนิดฮินดู Gunas มักถูกอธิบายว่าเป็นพลังงาน ส่วนอื่น ๆ เป็นคุณสมบัติหรือพลัง รูปสามเหลี่ยมที่ตรงกันข้ามและประกอบพร้อมกันนี้มีหน้าที่ควบคุมทั้งจักรวาลทางกายภาพและรูปแบบบุคลิกภาพและความคิดของแต่ละคนในชีวิตประจำวันของพวกเขา

กุนนาที่ก่อกำเนิดความล้มเหลวหรือความสำเร็จของเรา ความสุข หรือความเศร้าโศก สุขภาพ หรือความเจ็บป่วย คุณภาพของการกระทำของเราส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการกระทำของพวกเขา โดยที่ Sattva เป็นพลังสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นแก่นแท้ของสิ่งที่จำเป็นต้องทำให้เป็นจริง ทามาสคือความเฉื่อย อุปสรรคที่ต้องเอาชนะ และราชาคือพลังงานหรือพลังที่สามารถขจัดอุปสรรคได้

กล่าวอีกนัยหนึ่ง Sattva มักถูกมองว่าเป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์และความเงียบสงบ ในทางกลับกัน ราชจะเรียกว่าการกระทำ ความรุนแรง และการเคลื่อนไหว ในที่สุด Tamas ประกอบด้วยหลักการของความแข็งแกร่ง การต้านทาน ความเฉื่อย และการไม่สามารถเคลื่อนที่ได้

เช่นเดียวกับ doshas ทั้งสาม Gunas มีอยู่ในทุกๆ สิ่ง แต่หนึ่งในนั้นมักจะครอบงำไม่ว่าจะในด้านบุคลิกภาพ สรีรวิทยา และแม้กระทั่งองค์ประกอบของธรรมชาติ เช่น แสงแดด (สัตตวา) ภูเขาไฟที่กำลังปะทุ (ราชา) และก้อนหิน (ทามาส)

Emเงื่อนไขของจิตใจมนุษย์ตลอดทั้งวันจะมี Gunas ในความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดูว่าผู้คนมีปฏิกิริยาอย่างไรกับแต่ละ Gunas ที่มีอำนาจเหนือกว่า

อ่านเพิ่มเติม: Rasas: รสอายุรเวททั้งหกเพื่อปรับสมดุลอาหารของคุณ

Sattva

ผู้ที่มี Sattva เป็น Guna เด่นของเขามักจะมีช่วงเวลาแห่งแรงบันดาลใจ คนอื่น ๆ มีความรู้สึกสงบสุข แต่ก็มีความรักที่ไม่สนใจผู้อื่นมากกว่าและความสงบเกือบเข้าฌาน พวกเขาเป็นที่รู้จักในฐานะบุคคลที่มีจิตสำนึกภายในจิตใจและหัวใจเป็นหนึ่งเดียว พวกเขามักจะมองเห็นด้านสว่างของทุกสิ่ง และมองชีวิตว่าเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่สวยงาม

สัทธาโดยเนื้อแท้แล้วเป็นตัวแทนของลักษณะต่างๆ เช่น แสงสว่าง ความบริสุทธิ์ ความรู้ ความพึงพอใจ ความดี ความเห็นอกเห็นใจ ความเฉลียวฉลาด และ ความร่วมมือที่มีต่อกัน บุคคลที่มีสัทธาเป็นหลักในบุคลิกภาพหรือกำลังประสบกับอารมณ์สามารถระบุได้จากลักษณะต่างๆ:

• ความกล้าหาญ
• ความซื่อสัตย์
• การให้อภัย ;
• ปราศจากอารมณ์โกรธ ริษยา
• สงบสติอารมณ์
• ดูแลตัวเองและร่างกาย
• เอาใจใส่
• สมดุล;

เมื่อ Sattva อยู่ในสถานะครอบงำ บุคคลจะสามารถสัมผัสกับจิตใจที่แน่วแน่และไม่อาจหยั่งรู้ได้ ที่ความสมดุลและการจดจ่อสามารถช่วยคุณในการตัดสินใจบางอย่าง เริ่มก้าวแรกสู่การกระทำ หรือเพียงแค่จดจ่อกับกระบวนการทำสมาธิ

สำหรับผู้ที่ต้องการ Sattva มากขึ้นในชีวิตประจำวัน พวกเขาสามารถนำแนวทางปฏิบัติต่างๆ เช่น จิตวิญญาณ การฝึกฝน เทคนิคโยคะ การทำสมาธิ การสวดมนต์ บทสวดมนต์ การควบคุมอาหารและวิถีชีวิตแบบสัตตวิก ใช้เวลาสัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้นและใช้ชีวิตอย่างกลมกลืน การเป็นตัวแทนนั้นมอบให้โดยพระวิษณุเทพเจ้าในศาสนาฮินดูซึ่งมีหน้าที่ดูแลรักษาจักรวาล

ราชา

ไม่เหมือนกับจิตสัตตวิหค บุคคลที่มีราชาเป็นผู้ปกครองจะไม่มีวันสงบสุข ด้วยการระเบิดความโกรธและความปรารถนาอย่างแรงกล้าอย่างต่อเนื่อง Rajas ที่รุนแรงทำให้แต่ละคนไม่พอใจและกระสับกระส่าย ไม่สามารถนั่งหรืออยู่นิ่งๆ ได้ เขาต้องทำอะไรอยู่เสมอไม่ว่าอะไรก็ตาม ความปรารถนาของคุณต้องได้รับการเติมเต็มไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง มิฉะนั้น ชีวิตของคุณจะน่าเสียดาย

ยึดติดกับอำนาจและสิ่งของทางวัตถุมาก มันค่อนข้างง่ายที่จะระบุคนที่มีราชาเหนือกว่าในบุคลิกภาพหรือสภาพจิตใจของพวกเขา แม้จะมีพลังงานดี พวกเขาก็มักจะ ทำกิจกรรมมากเกินไป ใจร้อน ไม่สอดคล้องกันในแนวทางของตนเอง และมีแนวโน้มที่จะโทษผู้อื่นสำหรับปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขา นอกเหนือจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว สิ่งต่อไปนี้ยังโดดเด่นอีกด้วย:

• ความปรารถนาที่ไม่รู้จักพอด้านต่างๆ (ยิ่งมีมากยิ่งอยากได้)
• ความคิดฟุ้งซ่าน
• ความโกรธ
• อัตตา
• ความโลภ
• ตัณหา ;
• ริษยา;
• ความฟุ้งซ่านหรือปั่นป่วนของจิตใจ

เพื่อให้ใช้ได้ดี Guna นี้จะต้องสมดุลกับ Sattva เสมอ สหภาพนี้ส่งเสริมการแสดงออกในเชิงบวก รับผิดชอบกิจกรรมที่สร้างสรรค์และสร้างสรรค์ ซึ่งสามารถสร้างพลังงานและความกระตือรือร้นเพื่อดำเนินการให้สำเร็จ

เมื่อเผชิญกับราชาที่เข้มข้น ความสามารถด้านความรู้ของแต่ละคนจึงถูกซ่อนไว้ และภายใต้ ความกดดันของ Guna นี้ บุคคลถูกโจมตีทางประสาทสัมผัส จิตใจ และความเข้าใจของเขา กลายเป็นคนหลงผิด เพื่อบรรเทาเงื่อนไขนี้ ความสมดุลกับ Sattva เป็นสิ่งจำเป็น ราชาเป็นตัวแทนจากเทพเจ้าพรหม พลังสร้างสรรค์ที่เคลื่อนไหวในจักรวาล

อ่านเพิ่มเติม: ภูมิปัญญาอายุรเวท: สุดยอดอาหาร 8 ชนิดที่ทำให้คุณมีอายุยืนยาวขึ้น

ทามาส

เมื่อมาถึงกลุ่มที่สามของ Gunas ทามาสมีลักษณะพิเศษคือจิตใจที่ไม่มีสมาธิ ไม่ตั้งใจและซ้ำซากจำเจ ถูกครอบงำโดยพลังที่ไร้สติ ชาวทามาซิกมักจะถูกปิดกั้นหรือมีอารมณ์หยุดนิ่ง หลายครั้งพวกเขายังได้รับผลกระทบจากนิสัยที่ไม่ดี รวมถึงการเสพติดและอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถตั้งคำถามกับเงื่อนไขนี้ได้

ถือว่าเป็นหล่มทางจิตใจที่แท้จริง Tamas เป็นสภาพปัจจุบันเมื่อใดก็ตามที่ Sattva และ Rajas ล้มเหลวในการปฏิบัติ ท่ามกลางคุณสมบัติอื่นๆบุคคลจากทามาสแสดงอาการต่างๆ เช่น:

• เศร้าใจ
• ง่วงซึม
• มึนงง
• กลัว
• ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ;
• ความดื้อรั้น;
• สิ้นหวังอย่างแรงกล้า
• มีแนวโน้มฆ่าตัวตาย
• ความรุนแรง
• ความมืดมน
• หมดหนทาง;
• สับสน;
• ต่อต้าน;
• ไม่สามารถทำอะไรได้

นอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว เมื่อทามาสเข้ามาครอบงำ จิตใจของบุคคล เขาจะหลงลืม ง่วงนอน ไม่แยแส และไม่สามารถดำเนินการใดๆ หรือคิดบวกและเป็นประโยชน์ได้

บุคคลที่อยู่ภายใต้อิทธิพลและการครอบงำของทามาสสามารถกลายเป็นเหมือนสัตว์มากกว่าตัวมนุษย์ ไม่มีการตัดสินที่ชัดเจนและบุคคลอาจมีปัญหาในการแยกแยะถูกผิด เช่นเดียวกับสัตว์ คุณเริ่มมีชีวิตเพื่อตัวเองเท่านั้น โดยสามารถทำร้ายผู้อื่นเพื่อตอบสนองความต้องการของคุณ ถูกครอบงำและมืดบอดด้วยความไม่รู้ เป็นไปได้ว่าเขาสามารถฝึกฝนการกระทำที่ผิดเพี้ยนได้เช่นกัน

กูน่าทามาสเป็นตัวแทนจากชื่อที่สามของตรีเอกานุภาพของศาสนาฮินดู พระอิศวร หรือที่รู้จักในชื่อเทพเจ้าผู้ทำลายล้าง (หรือผู้แปลงร่าง) ผู้ทำลายเพื่อให้การเริ่มต้นสิ่งใหม่

อาหารของ 3 Gunas

นอกจากจะเป็นส่วนที่มีมาแต่กำเนิดในสาระสำคัญของแต่ละบุคคลแล้ว Gunas ยังเป็นคุณสมบัติที่มีอยู่ในอาหารและ เราจะได้รับความสมดุลตามที่ต้องการสำหรับทั้งร่างกายและจิตใจผ่านสิ่งเหล่านี้ อายุรเวทเสมอแนะนำให้เพิ่ม Sattva เนื่องจากเป็นโหมดที่เป็นกลางและสมดุลที่สุดในบรรดาโหมดอื่นๆ ในทางปฏิบัติอาจกล่าวได้ว่าอาหารมังสวิรัติมักจะเป็น Sattva และกลายเป็น Rajas ด้วยการใส่พริกไทย ทอด หรือทำให้สุกเกินไป อย่างไรก็ตาม อาจกลายเป็นทามะได้หากปรุงไม่สุกและเก็บไว้นานเกินไป

อาหารตามที่ระบุไว้ก็อยู่ในสถานะใดสถานะหนึ่งในสามสถานะนี้เช่นกัน และขึ้นอยู่กับวิธีการเตรียมอาหาร ส่งเสริมสภาพจิตใจบางอย่าง ดังนั้น Gunas จึงถูกมองว่าเป็นหมวดหมู่ภายในคำแนะนำในรูปแบบของปิรามิดอาหาร โดยมี Sattva เป็นฐานเสมอ Rajas หากจำเป็น และ Tamas จะลดจำนวนลงให้มากที่สุด

ก่อนที่เราจะแนะนำบางส่วนของ อาหารที่มีอยู่ในแต่ละชั้นของ Gunas เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องนำนิสัยบางอย่างมาใช้ในการเตรียมและรับประทานอาหาร ซึ่งจะต้องจัดการในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและสะอาด พร้อมการอ้างอิงและความพึงพอใจที่ดีเสมอ

ให้บริการด้วยความรัก และความเอื้ออาทร อย่างไรก็ตาม อย่าทานอาหารหน้าทีวี หลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือถกปัญหาขณะรับประทานอาหาร - ควรลืมความรู้สึกเหมือนโกรธที่โต๊ะ อย่าดื่มของเหลวระหว่างมื้ออาหารหลัก ไม่แม้แต่ผลไม้และ/หรือของหวานที่หวานและเย็นก่อนหรือหลัง จานของคุณไม่สามารถบรรจุอาหารได้มากกว่าสองกำมือของแข็ง (ธัญพืชและผัก)

นิสัยที่ไม่ถูกต้องเหล่านี้สามารถทำร้ายระบบย่อยอาหารของคุณและอาหารที่ย่อยไม่ดีทั้งหมดจะกลายเป็นสารพิษ (ama) ในร่างกายของคุณ อย่างที่ทราบกันดีว่า การสะสมของสารพิษสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคต่างๆ ได้

ในระหว่างมื้ออาหาร คุณควรปลูกฝังความสงบของจิตใจและความสามารถในการมีสมาธิ โดยจำไว้เสมอว่าต้องเคี้ยวอาหารให้ดีก่อนกลืน เมื่อบริโภคผัก ให้เลือกผักที่ปรุงสุกแล้ว ต้มหรือผัด เพียงระมัดระวังในวิธีการเตรียมเพื่อไม่ให้สารอาหารของคุณสูญหายไปกับน้ำ

มีข้อควรระวังอีกประการหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับฤดูกาล ซึ่งจำเป็นต้องมีการเตรียมการที่เฉพาะเจาะจง และการบริโภคอาหารบางชนิดโดยเฉพาะ ดูรายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับวัตถุในสองฤดูกาลที่มีแอมพลิจูดมากขึ้น:

• ฤดูหนาว: เมื่อมีอากาศหนาวเย็นเป็นส่วนใหญ่ ขอแนะนำให้ปรุงหรือตุ๋นอาหาร บริโภคที่ยังร้อนอยู่
• ฤดูร้อน: ในฤดูกาลที่มีแสงและความร้อน อาหารควรเบา สด และย่อยง่าย วิธีการปรุงต้องสามารถคงความสดได้ ให้ความสำคัญกับผักและผักใบเขียวในรูปแบบของสลัด

โดยไม่คำนึงถึงฤดูกาล กฎที่กำหนดขึ้นสำหรับอายุรเวทนั้นเหมือนกันเสมอ: กินอาหาร sattvic เป็นหลัก สลับกับตัวเลือกอื่น ๆrajasic เฉพาะในกรณีที่คุณต้องการพลังงานมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยง Tamasic ด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมด

Sattwic Foods

รู้จักกันในชื่อ "วิถีแห่งพระเจ้า" นี่คือพลัง 0 (เป็นกลาง) ซึ่งหมายถึงความสมดุลและสมอของความสงบไปจนถึงความกระปรี้กระเปร่า กระแสน้ำ ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด อาหาร sattvic ควรมีส่วนประกอบประมาณ 65% หรือมากกว่านั้นในมื้ออาหาร เป็นผลให้พวกเขาส่งเสริมจิตใจที่แจ่มใสและส่วนใหญ่พบในอาหารมังสวิรัติที่สด ดิบ หรือปรุงสุก แต่มักจะฉ่ำ มีคุณค่าทางโภชนาการ ย่อยง่าย และปรุงด้วยความรัก

อาหารเหล่านี้จะต้อง ปราศจากสารเติมแต่งและวัตถุกันเสีย และอาจรวมถึงพืชตระกูลถั่ว ผัก ผลไม้ เนยใส และนมสด ตัวอย่างที่ดีของสิ่งที่สามารถบริโภคได้ ได้แก่ ฝัก ถั่วปากอ้า ถั่วเลนทิล ถั่วลันเตา ถั่วชิกพี ถั่วเหลือง ถั่วงอก ธัญพืช เช่น ข้าว ข้าวโพด ข้าวไรย์ ข้าวสาลี และข้าวโอ๊ต รวมทั้งธัญพืชไม่ขัดสี ผักที่ขึ้นเหนือพื้นดิน (ยกเว้นหัว) ถั่ว (เกาลัด เฮเซลนัท และอัลมอนด์) เมล็ดพืชเบ็ดเตล็ด (ลินสีด งา ทานตะวัน ฯลฯ) เกสรดอกไม้ น้ำผึ้ง อ้อย นมเปรี้ยวสด เวย์ นมถั่วเหลือง สมุนไพรและเครื่องเทศในปริมาณปานกลาง

โดยทั่วไปแล้ว อาหาร sattvic เกี่ยวข้องกับรสชาติของ madhura (หวาน) และสามารถกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ สัญชาตญาณ นอกเหนือจากการควบคุมจิตใจและอารมณ์